คำเตือน โพสต์นี้ยาว แต่อ่านจบจะรู้ว่าสั้น

เมื่อไม่กี่วันมานี้เหมือนได้กลับไปเจอแรงบันดาลใจที่หายไปนาน

 เกือบสิบปีที่ไม่ได้เจอพี่ชูชัย (ชูชัย ฤดีสุขสกุล) ผู้ก่อตั้ง “ป่าน้ำใส” จู่ๆ โพสต์ของป่าน้ำใสดันโผล่มาในฟีด เหมือน FB จะรู้ว่าเรากำลังโหยหาพื้นที่ที่เราอยากอยู่แบบสุขใจ ไม่ต้องรอให้ถึงเกษียณก่อน เลยยกหูหาพี่ชูชัยทันที ปลายสายตอบมาอย่างอบอุ่น “เอ้าจิน เป็นไง อยากได้อะไรล่ะ เข้ามาได้เลย” ซึ่งจริงๆ แล้ว เราอยู่ห่างกันแค่ 10 นาทีเอง

พอไปถึงเจอน้องเบญ พาชมโครงการ บรรยากาศคือสดชื่น เพราะลมเย็นจากต้นไม้ใหญ่และผืนน้ำพัดมาเต็มๆ ทั้งๆ ที่นี่เคยเป็นไร่อ้อย เป็นทุ่งนามาก่อน ไม่ได้เป็นป่าใหญ่แบบที่เห็น แต่ต้นไม้ทุกต้นที่เห็นในวันนี้ พี่ชูชัยลงมือปลูกเองทั้งหมดตั้งแต่ 30 กว่าปีก่อน พื้นที่ผ่านการออกแบบโดยสถาปนิกอย่างมีความหมายทุกส่วน มีลำคลองและถนนคอนกรีตทุกแปลง มีบึงขนาดใหญ่ มีเส้นทางวิ่งออกกำลังกายริมบึง อินเทอร์เน็ตทั่วโครงการ ประตูอัตโนมัติ เปิดปิดแบบส่วนตัวตลอดเวลา มีไฟส่องสว่างทั้งป่า น้ำประปาไฟฟ้ามีพร้อมทุกแปลง คนสวนมากมาย ค่าส่วนกลาง ตารางวาละแค่ 10 บาท!! ( ถูกกว่าหมู่บ้านเล็กๆที่จินอยู่ครึ่งนึงเลย..จะบ้าตาย) จากพื้นที่กว่า 438 ไร่ พี่ชูชัยเลือกจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยเพียง 30% อีกเล็กน้อยสำหรับโซนธุรกิจ และที่เหลือเกือบทั้งหมดคืนให้กับน้ำและป่า เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สอดคล้องกับสุขภาวะมากที่สุด

ทุกแปลงที่ได้เห็น มีต้นไม้สูงใหญ่ที่อายุเกิน 20 ปี เป็นไม้ที่ตั้งใจเลือกชนิดพันธุ์ ไม่ใช่ไม้ป่าเพราะรกร้าง แต่เป็นไม้มีราคา จินเคยคิดว่าถ้ามีที่ดินจะซื้อมาปลูกเอง แต่ต้นแบบนี้ถ้าซื้อแบบต้นเท่านี้เลย ล้อมมาราคาก็หลักแสน แต่ที่นี่เขาปลูกให้ทุกแปลง แปลงละ 5-10.ต้นเลยทีเดียว ระหว่างนั่งรถกอล์ฟไปกับอาร์ต เราหลุดเข้าไปอยู่ในบทสนทนาที่เหมือนกำลังวาดฝันร่วมกัน…บ้านตรงนี้น่าจะหันไปทางนั้นนะ โรงจอดรถอยู่ตรงนี้ดีกว่า ส่วนตรงนี้ทำห้องทำงานเป็นกระจกเทควิว 360 องศา ด้านโน้นขอระเบียงไว้ปิ้งย่างตอนเย็น ความสุขมันไหลเข้ามาเองโดยไม่ต้องพยายาม ทั้งที่ยังไม่มีตังซักบาทด้วยซ้ำ

จนได้เจอพี่ชูชัยถึงรู้ว่าเฟสแรกขายหมดแล้ว แสดงให้เห็นว่ามีคนอีกไม่น้อยที่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ และที่น่าทึ่งคือ ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่วัยเกษียณ แต่เป็นวัยทำงานที่อยากร่นเวลา อยากรีบมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีตั้งแต่ตอนนี้

เราคุยกันยาว จนมาหนักแน่นตรงแนวคิดที่ชัดเจนของพี่ชูชัย ที่นี่ไม่ใช่แค่โครงการอสังหา แต่เป็นการสร้างชุมชนสุขภาวะจริงๆ และยิ่งมองในมุมคนทำธุรกิจ ยิ่งเห็นว่า นี่คือทำเลที่เหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร สปา อีเว้นท์ ไปจนถึงธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จุดแข็งคือผู้ประกอบการไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เพราะทำเลและสภาพแวดล้อมคือทุนตั้งต้นที่แข็งแรงมาก

จินกลับออกมาจากป่าน้ำใสในวันนั้น สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ความสุขทางกายและใจ แต่คือสมองที่เต็มไปด้วยวิชั่นที่จับต้องได้ และโอกาสมากมายที่กำลังจะเบ่งบานในอนาคต และถ้าถามว่า..ที่นี่เหมาะกับใคร คำตอบที่พี่ชูชัยให้ไว้เรียบง่าย แต่ชัดเจนมาก… “คนเผ่าเดียวกัน” และที่สำคัญไปกว่านั้น พี่ชูชัยบอกว่าที่นี่พร้อมเปิดโอกาสให้นักธุรกิจทุกคนที่สนใจในธุรกิจที่ส่งเสริมสุขภาพได้เข้ามาเริ่มต้นในสภาพแวดล้อมที่จะส่งเสริมให้ภาพของ wellness ชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องแลกด้วยเงินเสมอไป ขอให้เปิดใจมาคุยกันทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ

จินมีภาพในโครงการมาฝากและขอภาพมุมบนจากพี่ชูชัยมาด้วยเผื่อจะเป็นโอกาสให้คนที่กำลังสนใจได้มีข้อมูล รูปท้ายๆ จะมีแปลนไว้ให้ดูเล่นๆด้วยนะจ๊ะ

เยี่ยมชมโครงการ /สอบถามเพิ่มเติม https://lin.ee/kgjbtGx

https://www.facebook.com/paanamsaiwellness